ความรู้เกี่ยวกับไม้สักทองว่าทำไมถึงมีราคาแพง
1. ไม้สักที่นำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์นั้นมีอายุยืนยาวมาก
ในท้องตลาดที่เราเห็นสำหรับการนำไม้สักแบบต่างๆ มาใช้เพื่อนำเฟอร์นิเจอร์นั้น ต้องใช้ไม้สักที่มาอายุไม่น้อยกว่า 30-40 ปี จึงจะสามารถนำมาแปรรูปเป็นสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ได้ เพราะการนำไม้สักอายุยืนมาใช้นั้น นอกจากจะมีลายและเนื้อสีเหลืองทองสวยงามแล้วนั้น ยังสามารถนำมาฉลุตกแต่งและมีเสี้ยนตรงทำให้ขึ้นรูปเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย ราคาของเฟอร์นิเจอร์ชนิดไม้สักจึงมีราคาแพง แต่ผู้บริโภคก็ได้ครอบครองเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่สวยและคงทน คุ้มค่ากับคุณภาพของเนื้อไม้
2. ประเทศไทยคือเขตอุตสาหรกรรมที่ใหญ่และมีพรรณไม้สักที่ดีที่สุดในโลก
ของดีแห่งประเทศไทยที่อยากบอกต่อ เนื่องจากโดยธรรมชาตินั้น ไม้สักเป็นไม้ป่าเขตร้อน มีจำกัดอยู่เฉพาะในบางประเทศ เช่น อินเดีย พม่า ไทย ลาว และอินโดนีเซีย แต่สำหรับแหล่งไม้สักธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ในประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่จังหวัดทางภาพเหนือ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน ในเนื้อไม้สักทองยังพบอีกว่ามีสารแร่ทองคำปนอยู่ประมาณ 0.5 ppm.ดังนั้นเรียกได้ว่าประเทศไทยนั้นเป็นแหล่งผลิตไม้สักที่มีคุณภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
3. ไม้สักเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและอุดมสมบูรณ์มาก
โครงสร้างทางธรรมชาติของไม้สักนั้นมีความแข็งแรงคงทน ทนต่อทั้งความร้อนและความเย็นได้ดี เหมาะที่จะใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยรวมต้นสักเป็นต้นขนาดใหญ่ผลัดใบในฤดูร้อน ลำต้นตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็กๆ มีเปลือกสีเทาห่อหุ้มและมีความเรียบสวยเงางาม ป้องกันการถูกกัดแทะจากสัตว์วัชพืชต่างๆ ได้ เช่น ปลวกและมอดจากสารเคมีพิเศษในเนื้อไม้ที่ชื่อว่า
4. ไม้สักถูกใช้ในงานอื่นนอกเหนือจากการทำเฟอร์นิเจอร์
ด้วยความแข็งแรงและสวยงามของไม้สัก ทำให้สามารถทำไปแปรรูปใช้ในกระบวนการผลิตหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรือสำราญ หรือการสร้างบ้านที่อยู่อาศัย แสดงให้เห็นว่าไม้สักนั้นมีความแข็งแรงทนทานมากจริงๆ แถมยังเป็นไม้ที่ไม่เปลี่ยนสีเมื่อต้องทำงานกับพวกเหล็กและอลูมิเนียมทั้งหลายด้วย เรียกว่าเป็นราชาแห่งไม้อย่างแท้จริง
ท้ายสุดนี้ ถ้าคุณชื่นบ้านไม้สักทองที่ดีไซน์สวย แข็งแรง ทนทาน ไม่ว่าจะสไตล์โมเดิร์นเรียบหรูหรือสไตล์วินเทจคลาสสิค ก็อย่าลืมลองเยี่ยมชมแบบของนวภูมิบ้านไทยได้เลยนะคะ